อาการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งในเรื่องอาการเสื่อมของไดสตาร์ท, ปั๊มติ๊ก ,ไดชาร์จ และการเสื่อมของเเบตเตอรี่ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดเช่นกัน ฉะนั้นหากรถของคุณมีอาการสตาร์ทติดยาก ลองปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้กันครับ
● เปิดฝากระโปรงแล้ว ลองใช้มือขยับหรือหมุนขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ข้างดูว่าแน่นหรือไม่ หากขั้วแบตเตอรี่หลวมให้ขันให้แน่น และลองสังเกตดูว่าที่ขั้วแบตเตอรี่มีคราบขี้เกลือเกาะอยู่ทั้ง 2 ข้างหรือไม่ เพราะขี้เกลือเกาะมากเกินไปจะทำให้กระแสไฟเดินไม่สะดวก หากมีให้ใช้น้ำร้อนราดขั้วแบตเตอรี่ ที่มีขี้เกลือเกาะอยู่ จากนั้นให้ทาด้วยจาระบี
● ลองเปิดไฟหน้ารถในเวลากลางคืน แล้วสังเกตดูว่าความสว่างของไฟหน้าลดลงจากเดิมหรือไม่ หากไฟหน้าลดลงความสว่างไม่เต็มที่เหมือนเดิม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า แบตเตอรี่เริ่มเสื่อม แต่หากไฟหน้ารถยังสว่างเหมือนปกติ เเต่สตาร์ทติดยาก ลองทำตามวิธีต่อไป
● บิดกุญแจรถไปที่ On ทดสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมดในตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว, เปิดแอร์เร่งแรงสุด, เปิดวิทยุ หากระบบเหล่านี้ทำงานผิดปกติจากเดิม สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะมาจากอาการเเบตเตอรี่เสื่อม หรือเปิดกระจกไฟฟ้าลงและขึ้นทั้ง 2 ข้าง พร้อมกัน แล้วสังเกตดูว่ากระจกเลื่อนขึ้นลงแบบหนืดหรือไม่
ทั้งหมดนี้คือการทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์แบบคร่าวๆ หากต้องการตรวจเช็คว่า แบตเตอรี่รถคุณยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรนำรถให้ช่างผู้ชำนาญงานตรวจสอบจะดีกว่าเพราะอย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า ปัญหารถยนต์สตาร์ทติดยาก บางทีอาจเกิดจากสาเหตุมาจากส่วนอื่นๆ เสียหายก็เป็นได้
"แอค" บริการจำหน่ายและเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ เหมาะกับเครื่องยนต์ของคุณ เพื่อเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
"แอค" ดูแลรถ.. ดูแลคุณ..
#แอค #ACT #BSACT #thaibridgestone
#tire #bridgestone #Car #ยาง #รถยนต์
source : auto.mthai.com
